|
|
|
 |
|
แดนจิงโจ้กระโดดกู้โลก ด้วยพลังลม |
มิถุนายน 2559
ที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยสถิติการผลิตกระแสไฟฟ้าของฟาร์มพลังงาน ซึ่งมีประสิทธิภาพการส่งมอบพลังงานหมุนเวียนสำหรับประเทศได้สูงถึง 1,299 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดย Pitt & Sherry ที่ปรึกษาด้านพลังงานรายงานว่าปริมาณความต้องการใช้งานไฟฟ้าภายในประเทศจากแหล่งพลังงานลมคิดเป็น 8.5% เลยทีเดียว ทั้งนี้ตัวเลขที่ปรากฎยังอยู่ในระดับสูงกว่าสถิติเดิมที่เคยบันทึกไว้ก่อนหน้าเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2015 ถึง 22% อีกด้วย นอกจากนั้นตามที่ Australian Wind Alliance ระบุ สถิติการผลิตพลังงานลมสุดน่าประทับใจนี้จะสามารถช่วยยับยั้งและป้องกันปัญหาการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าไปได้พร้อม ๆ กัน
โดยการทำลายสถิติการผลิตกระแสไฟฟ้าจากฟาร์มพลังงานลมในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 รัฐด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ 1. รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) ที่ 49% 2. รัฐแทสเมเนีย (Tasmania) 13% 3. รัฐวิกตอเรีย (Victoria) 12% และ 4. รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) 4.8% ซึ่งเพียงพอกับการรองรับและตอบสนองต่อการใช้งานภายในบ้านเรือนของประชาชนแน่นอน ทั้งนี้ตั้งแต่ที่อดีตนายกรัฐมนตรี Mr. Tony Abbott สั่งยกเลิกการจัดเก็บภาษีคาร์บอนในประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014 ที่ผ่านมา ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการผลิตไฟฟ้าก็เพิ่มสูงมากขึ้นถึง 5.6% เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามรัฐบาลของ Mr. Malcolm Turnbull นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็ไม่เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจ โดยยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเพื่อรับมือและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
ทั้งนี้เป้าหมายของรัฐเซาท์ออสเตรเลียหลัก ๆ เลย คือการควบคุมปริมาณคาร์บอนให้สำเร็จภายในไม่เกินปี 2050 เพื่อให้เมืองแอดิเลด (Adelaide) กลายเป็นเมืองที่ปราศจากคาร์บอนแห่งแรกและแห่งเดียวบนโลก นอกจากนี้ Australian Capital Territory (ACT) ยังวางกรอบการดำเนินงานกำจัดคาร์บอนภายในปี 2050 เช่นกัน ด้วยประสิทธิภาพของพลังงานทดแทนแบบ 100% เต็ม ก่อนถึงปี 2020 โดยรัฐวิกตอเรียได้เข้าร่วมกับรัฐเซาท์ออสเตรเลียและ ACT เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้เหลือศูนย์ตามแผนการที่กำหนดไว้ในปี 2050 อีกด้วย
ที่มา : www.energysavingmedia.com |
|
|
|
|
|
|
|
|